คำสอนว่าด้วยรัฐและหลักกฎหมายมหาชน วรเจตน์ ภาคีรัตน์ (ปกอ่อน)
คำสอนว่าด้วยรัฐและหลักกฎหมายมหาชน
ผู้เขียน : วรเจตน์ ภาคีรัตน์
พิมพ์ครั้งที่ 4 : 2567
จำนวนหน้า : 536 หน้า
รูปแบบ : ปกอ่อน
สำนักพิมพ์อ่าน
9786168300022
คำนำ
คำนำฉบับพิมพ์ครั้งที่สี่ ในการจัดพิมพ์ตำราเล่มนี้เป็นครั้งที่สี่ ผู้เขียนยังไม่ได้แก้ไขเพิ่มเดิมส่วนที่เป็น ลาระตำตัญ ได้แต่แก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลบางส่วนเพียงเล็กน้อยให้ทันสมัยขึ้น โดย เฉพาะกรณีการยุบสภาตามัญชนในระบบกฎหมายตหราชอาณาจักร ซึ่งหลังจาก มีการตรา Fixed-temm Parliaments Act 2011 ยกเลิกอำนาจของกษัตริย์ในการ ยุบสภาสามัญชนตามข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีแล้ว การยุบสภาสามัญชน จะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่จำกัดอย่างยิ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามบัดนี้ได้มีการตรา Dissolution and Calling of Parliament Act 2022 ยกเลิก Fixed-term Parliaments Act 2011 และกลับไปใช้หลักเกณฑ์ตามที่เป็นมาแต่เดิม ง หมายความว่ากษัตริย์จะกลับมามีอำนาจในการยุบสภาสามัญชนตามข้อเสนอ ของนายกรัฐมนตรี อันแสดงให้เห็นว่าบัดนี้ระบบกฎหมายสหราชอาณาจักร ได้รื้อฟื้นธรรมเนียมปฏิบัติทางรัฐธรรมนูญที่เป็นมาแต่เดิมกลับมาใช้ใหม่ และ สะท้อนว่าตามประสบการณ์ทางการเมืองในสหราชอาณาจักรนั้น การอุบเภ# 28 สามัญชนมีลักษณะเป็นการกระทำทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นตามแต่สถานการณ์ ะหัวงเวลา กฎเกณฑ์ทางกฎหมายอาจจะไม่ไช่สิ่งที่เหมาะสมนักที่จ กำกับการกระทำดังกล่าว การย้อนกลับไปใช้กฎเกณฑ์เดิมของสหราชอาณาจักร ในเรื่องนี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อข้อถกเถียงเกี่ยวกับอำนาจตลอดจนเงื่อนไขใน การยุบสภาผู้แทนราษฎรในระบบกฎหมายไทย ถ้าหากจะมีต่อไปในอนาคตด้วย หวังว่าผู้อ่านที่ใฝ่ใจในความรู้ทางกฎหมายมหาชนจะได้รับประโยชน์จาก ตำราเล่มนี้ และหวังว่าในวาระครบรอบหนึ่งทศวรรษของการทำรัฐประหารแย่งชิง อำนาจรัฐโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในปีนี้ วงวิชาการกฎหมาย มหาชนไทยจะได้ตระหนักว่าเรายังไม่ได้ไปไหนไกลนัก และยังมีเรื่องที่จะต้องทำ อีกมากเพื่อให้หลักกฎหมายมหาชนที่ถูกต้อง เปี่ยมด้วยเหตุผลและความเป็น ธรรม ได้มีที่ยืนที่มั่นคงและเจริญงอกงามในสังคมไทย วรเจตน์ ภาคีรัตน์ กลางเดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
พิมพ์ครั้งที่ 4 ผู้เขียนมีการแก้ไขเพิ่มเติมเล็กน้อยในบทที่ 16
- น. 373 แก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลเรื่องอำนาจของกษัตริย์ในการยุบสภาสามัญชนในสหราชอาณาจักร ให้อัพเดตตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปล่าสุด
- 379 เพิ่มเติมข้อความเล็กน้อยให้ชัดเจนขึ้นเรื่องอำนาจของประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการปลดนายกรัฐมนตรี